วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประเพณีไทย

ประเพณีกวนขนมอาซูรอ

ประเพณีไทยท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิม


ประเพณีกวนขนมอาซูรอ เป็นประเพณีพื้นบ้านของชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม คำว่า "อาซูรอ" เป็นภาษาอาหรับ หมายถึงวันที่ 10 ของเดือนมูฮรอม อันเป็นเดือนแรกของปฏิทินอาหรับ ชาวบ้าน นิยมกวนขนมอาซูรอกันในเดือนนี้ จึงเรียกกันว่า ขนมอาซูรอ

คำว่า อาซูรอ  แปลว่า  การผสม  การรวมกัน คือการนำสิ่งของที่รับประทานได้หลายสิ่งหลายอย่างมากวนรวมกัน มีทั้งชนิดคาวและหวาน   การกวนข้าวอาซูรอจะใช้คนในหมู่บ้านมาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อความสามัคคีและสร้างความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว 
อันมีผลต่อการอยู่ร่วมกันของสังคมอย่างมีความสุข ก่อนจะแจกจ่ายให้รับประทานกัน เจ้าภาพจะเชิญบุคคลที่นับถือของชุมชนขึ้นมากล่าวขอพร (ดูอา) ก่อน                                                                                                                      จึงจะแจกให้คนทั่วไปรับประทานกัน

ขนมอาซูรอ เริ่มด้วยการที่เจ้าภาพประกาศเชิญชวนนัดหมายให้ผู้คนรู้กันทั่วว่าจะกวนขนมอาซูรอ ที่ไหน เมื่อใด พอถึงวันกำหนดนัด ชาวบ้านก็จะช่วยกันนำอาหารดิบ อันเป็นเครื่องปรุงชนิดต่าง ๆ มารวมกัน ผู้คนจะมามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าภาพผู้เชิญชวน เมื่อได้ของมามาก พอแล้วก็จะช่วยกันกวน








วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วันมาฆบูชา

วันมาฆบูชา


ประวัติความเป็นมา

         ๑. ส่วนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ ๙ เดือนขณะนั้นเมื่อเสร็จพุทธกิจแสดงธรรมที่ถ้ำสุกรขาตาแล้ว เสด็จมาประทับที่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ เดือนมาฆะหรือเดือน ๓ในเวลาบ่ายพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้า มาประชุม พร้อมกัน ณ ที่ประทับของพระพุทธเจ้า นับเป็นเหตุอัศจรรย์ ที่มีองค์ประกอบสำคัญ ๔ ประการ คือ
          ๑. วันนั้นเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
          ๒. พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้ นัดหมาย
          ๓. พระสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา ๖
          ๔. พระสงฆ์ทั้งหมดเป็นผู้ได้รับการอุปสมบท โดยตรงจาก พระพุทธเจ้า

ความสำคัญ
วันมาฆบูชา เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ มีเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ โดยมิได้นัดหมายกันพระสงฆ์ ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์
ผู้ได้อภิญญา ๖และเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบท โดยตรงจากพระพุทธเจ้า ในวันนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ในที่ประชุมสงฆ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นทั้งหลักการอุดมการณ์และวิธีการปฏิบัติที่ นำไปใช้ได้ทุกสังคม มีเนื้อหา โดยสรุปคือให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดี ให้ถึงพร้อมและทำจิตใจให้ผ่องใส

การถือปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย
พิธีวันมาฆบูชานี้ เดิมทีเดียวในประเทศไทยไม่เคยทำมาก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายไว้ว่าเกิดขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยทรงถือตามแบบของโบราณบัณฑิตที่ได้นิยมกันว่า วันมาฆะบูรณมี พระจันทร์เสวยฤกษ์มาฆะเต็มบริบูรณ์เป็นวันที่พระอรหันต์สาวกของ พระพุทธเจ้า ๑,๒๕๐ รูป ได้ประชุมกันพร้อมด้วยองค์ ๔ ประการ เรียกว่า
 จาตุรงคสันนิบาตพระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาโอวาทปาติโมกข์ ในที่ประชุมสงฆ์เป็นการ ประชุมใหญ่ และเป็นการอัศจรรย์ในพระพุทธศาสนา นักปราชญ์ จึงถือเอาเหตุนั้นประกอบ การสักการบูชาพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวก ๑,๒๕๐ รูปนั้น ให้เป็นที่ตั้งแห่งความ เลื่อมใสการประกอบพิธีมาฆะบูชา ได้เริ่มในพระบรมมหาราชวังก่อน
 ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีพิธีการพระราชกุศลในเวลาเช้า พระสงฆ์ วัดบวรนิเวศวิหารและ วัดราชประดิษฐ์ ๓๐ รูป ฉันในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เวลาค่ำ เสด็จออกทรงจุด ธูปเทียนเครื่อง มนัสการแล้ว พระสงฆ์สวดทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว สวดมนต์ต่อไปมี สวดคาถาโอวาทปาติโมกข์ด้วยสวดมนต์ จบทรงจุดเทียนรายตามราวรอบพระอุโบสถ ๑,๒๕๐ เล่ม มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนา โอวาทปาติโมกข์
๑ กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลีและ ภาษาไทย เครื่องกัณฑ์ มีจีวรเนื้อดี ๑ ผืน เงิน ๓ ตำลึง และขนมต่าง ๆ เทศนาจบพระสงฆ์ ซึ่งสวดมนต์ ๓๐ รูป สวดรับการประกอบพระราชกุศลเกี่ยวกับ วันมาฆบูชาในสมัยรัชกาลที่ ๔ นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปีมิได้ขาด สมัยต่อมามีการเว้นบ้าง เช่น รัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออกเองบ้าง มิได้ เสด็จออกเองบ้างเพราะมักเป็นเวลาที่ประสบกับเวลาเสด็จประพาส หัวเมืองบ่อย ๆ หากถูกคราวเสด็จไปประพาสบางปะอินหรือพระพุทธบาท พระพุทธฉาย พระปฐมเจดีย์ พระแท่นดงรัง ก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชา ในสถานที่นั้น ๆ ขึ้นอีก ส่วนหนึ่งต่างหากจากในพระบรมมหาราชวังเดิมทีมีการประกอบพิธีในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาก็ขยายออกไป ให้พุทธบริษัทได้ ปฏิบัติตามอย่างเป็นระบบสืบมาจนปัจจุบัน มีการบูชา ด้วยการเวียนเทียน และบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ ส่วนกำหนดวันประกอบพิธีมาฆบูชานั้น ปกติตรงกับวันเพ็ญ เดือน ๓ หากปีใด เป็นอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหนจะเลื่อนไปตรงกับวันเพ็ญเดือน ๔



เกาะลอยศรีราชา

เกาะลอยศรีราชา 






เกาะลอยศรีราชา ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล ทางทิศเหนือของตลาดศรีราชา เป็นเกาะเล็ก ๆ ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งมีสะพานคอนกรีตเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะลอย รถเข้าถึงเกาะได้โดยสะดวก มีเนื้อที่ราว 3 ไร่เศษ บนเกาะมีสวนสาธารณะและสวนเต่าทะเล มีบันไดทางเดินขึ้นไปยังวัดที่อยู่บนยอดเขา
สะพานเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เป็นสะพานเชื่อมเกาะลอยกับฝั่งศรีราชา

            วิหารหลวงพ่อทันใจ
                  ชายฝั่งศรีราชาที่เกาะลอย ระหว่างการเดินทางไปเกาะลอยสามารถมองเห็นชายฝั่งส่วนที่เป็นตัวเมืองศรีราชาเลียบทะเลได้
              สวนสาธารณะเกาะลอย ถึงทางเข้าเกาะลอยแล้วบนเกาะลอยมีลานจอดรถที่รองรับรถได้เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวที่ขับรถมาจอดเพื่อข้ามไปเกาะสีชังก็จะจอดที่สวนสาธารณะแล้วเดินไปก็ได้ในกรณีที่ลานจอดรถของท่าเรือเต็ม
             พระโพธิสัตว์กวนอิม

                 จุดชมวิวเกาะลอย เห็นท่าเรือสำหรับเดินทางสู่เกาะสีชัง(ขวาบน) หรือเกาะขาม เกาะ ค้างคาวได้ มีลานจอดรถที่รองรับได้ประมาณ 60 - 80 คัน ถ้าเต็มก็จอดที่ลานจอดรถสวนสาธารณะเกาะลอยแล้วเดินต่อไปอีกหน่อย ส่วนด้านซ้ายเป็นวิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม หันพระพักตร์ไปทางทะเล เมื่อขึ้นเรือแล้วจะมองเห็นด้านหน้า

           ท่าเรือเกาะลอย ไปเกาะสีชัง


           ร้านอาหารเกาะลอย


     ของฝากเกาะลอย



วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ไส้ติ่งจร้า

ไส้ติ่งอักเสบ
 

                           ไส้ติ่งอักเสบพบเป็นสาเหตุอันดับแรกๆ ของโรคปวดท้องที่ต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเร่งด่วน บ่อยครั้งที่พบว่าผู้ป่วยปล่อยให้มีอาการปวดท้องนานหลายวันแล้วค่อยมาโรงพยาบาล     ซึ่งมักจะพบว่าเป็นถึงขั้นไส้ติ่งแตกเสียแล้ว ดังนั้น ใครก็ตามที่มีอาการปวดท้องมากติดต่อกันนานเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ควรจะรีบไปพแพทย์ใกล้บ้าน เนื่องเพราะถ้าไม่เป็นไส้ติ่งอักเสบ   ก็มักเป็นโรคปวดท้องร้ายแรงอื่นๆ  เสมอเป็นส่วนของลำไส้ มีความยาวประมาณ  3-4 นิ้ว ที่ยื่นออกมาจากส่วนต้นของลำไส้ใหญ่ (cecum)    อยู่ตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา   ภายในมีรูติดต่อกับลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ไส้ติ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของลำไส้ใหญ่ที่ฝ่อตัวลง        และไม่ได้ทำหน้าที่ในการย่อยและดูดซึมอาหารไส้ติ่งอักเสบเกิดจากมีภาวะอุดกั้นของรูไส้ติ่ง      ส่วนการอุดกั้นนั้นส่วนหนึ่งเป็นการเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด     แต่ส่วนหนึ่งเกิดจากมีเศษอุจจาระแข็งๆ      เรียกว่า  "นิ่วอุจจาระ" (facility) ชิ้นเล็กๆ ตกลงไปอุดกั้นอยู่ภายในรูของไส้ติ่ง     แล้วทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูไส้ติ่งจำนวนน้อยเกิดการเจริญแพร่พันธุ์และรุกล้ำเข้าไปในผนังไส้ติ่ง จนเกิดการอักเสบตามมา หากปล่อยไว้เพียงไม่กี่วัน ผนังไส้ติ่งก็เกิดการเน่าตายและแตกทะลุได้


อาการ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องที่มีลักษณะต่อเนื่องและปวดแรงขึ้นนานเกิน ๖ ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าไม่ได้รับการรักษาก็มักจะปวดอยู่นานหลายวัน จนผู้ป่วยทนปวดไม่ไหวต้องพาส่งโรงพยาบาลแรกเริ่มอาจปวดแน่นตรงลิ้นปี่คล้ายโรคกระเพาะ บางคนอาจปวดบิดเป็นพักๆ รอบๆ สะดือ คล้ายอาการปวดแบบท้องเสีย อาจเข้าส้วมบ่อย แต่ถ่ายไม่ออก (แต่บางคนอาจมีอาการถ่ายเป็นน้ำหรือ ถ่ายเหลวร่วมด้วย)ต่อมาจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารร่วมด้วย อาการปวดท้องมักจะไม่ทุเลา แม้ว่าจะกินยาแก้ปวดอะไรก็ตาม ต่อมาอีก 3-4 ชั่วโมง อาการปวดจะย้ายมาที่ท้องน้อยข้างขวา มีลักษณะปวดเสียดตลอดเวลา และจะเจ็บมากขึ้นเมื่อมีการขยับเขยื้อนตัว หรือเวลาเดินหรือไอจาม ผู้ป่วยจะนอนนิ่งๆ ถ้าเป็นมากผู้ป่วยจะนอนงอขา ตะแคงไปข้างหนึ่ง หรือเดินตัวงอ เพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นเมื่อถึงขั้นที่มีอาการอักเสบของไส้ติ่งชัดเจน มีวิธีตรวจอย่างง่ายๆ คือ ให้ผู้ป่วยนอนหงายแล้วใช้มือกดลงลึกๆ หรือใช้กำปั้นทุบเบาๆ ตรงบริเวณไส้ติ่ง (ท้องน้อยข้างขวา)ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บมาก (เรียกว่า อาการกดเจ็บ) ผู้ป่วยอาจมีไข้ต่ำๆ (วัดปรอทพบอุณหภูมิ 37.7-38.3 องศาเซลเซียส) 
การรักษา  ถ้าตรวจพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ  แพทย์จะทำ การผ่าตัดไส้ติ่งอย่างเร่งด่วน
การปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัด
1.การเตรียมความสะอาดร่างกาย เช่นการอาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ ให้สั้น ล้างสีเล็บออก เพื่อช่วยให้แพทย์ พยาบาล สังเกตอาการผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดออกซิเจน ในระหว่างการผ่าตัดและหลังผ่าตัด
2.การถอดของมีค่าต่างๆ การถอดฟันปลอม เพื่อป้องกันการหลุดของฟันปลอมเข้าไปอุดหลอดลม ขณะผ่าตัด
3.งดการใช้ครีมและเครื่องสำอางทุกชนิด
4.การงดอาหารและน้ำหลังเที่ยงคืนก่อนวันผ่าตัด หรืออย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด เพื่อให้ระบบย่อยอาหารว่าง
เพื่อความปลอดภัยปราศจากภาวะแทรกซ้อนขณะทำการผ่าตัด ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
1.กระตุ้นให้ผู้ป่วยลุกจากเตียงหลังผ่าตัดใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ท้องไม่อืด
2.การงดอาหารและน้ำหลังผ่าตัดวันแรก จนกว่าจะมีการเคลื่อนไหวของลำไส้ โดยเริ่มจิบน้ำ ถ้าไม่มีอาการท้องอืด จะเริ่มให้อาหารเหลว อาหารอ่อน และอาหารธรรมดาตามลำดับ
3.กระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจเข้า-ออก ลึกๆและไอถูกวิธี
4.การดูแลแผลผ่าตัด
· ระวังมิให้ผ้าปิดแผลเปียกน้ำ และห้ามเกาแผล เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง ได้
· เวลาไอ ใช้มือประคองแผล ป้องกันแผลแยก
5.การรักษาความสะอาดของร่างกาย ถ้าแผลยังไม่แห้ง ให้เช็ดตัวจนกว่าแผลจะแห้ง
6.การรับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์
7.การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โปรตีนสูง เช่น ไข่ ปลา เพื่อให้แผลติดเร็วขึ้น
8.การรักษาสุขนิสัยในการขับถ่ายอุจจาระให้สม่ำเสมอ ป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ต้องออกแรงเบ่งถ่ายอุจจาระมาก ทำให้เพิ่มความดันในช่องท้อง มีผลให้แผลที่เย็บซ่อมแซมไว้แยกได้
9.ควรพักผ่อนให้เพียงพอโดยเฉพาะ 1-2 สัปดาห์
10.มาพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น แผลมีหนอง บวม แดง
11.การมาตรวจตามแพทย์นัด



วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

ตรุษจีน


"ตรุษจีน" เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่า วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป สำหรับปี 2557 นี้ วันตรุษจีนตรงกับวันที่ 31 มกราคม

ส่วนการกำหนดวันตรุษจีนนั้น ตามประเพณีเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน และถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 คือวันชิวอิก หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ
วันจ่ายตรุษจีน
          ตามธรรมเนียมของคนจีนแล้ว วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก จะเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน ซึ่งจะตรงกับวันก่อนวันสิ้นปี
วันไหว้ตรุษจีน
วันไหว้ของเทศกาลตรุษจีนก็คือ "วันสิ้นปี" ซึ่งจะเป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ ฯลฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ
  
วันเที่ยวตรุษจีน
วันเที่ยวสำหรับชาวจีนก็คือ "วันปีใหม่" หรือ "วันตรุษจีน" และเป็น "วันถือ" ด้วย โดยในวันนี้ชาวจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เคารพรัก ชาวจีนจะถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวง

สัญลักษณ์ของ วันตรุษจีน
นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันตรุษจีน คือ "อั่งเปา " ซึ่งมีความหมายว่า "กระเป๋าแดง" หรือจะใช้คำว่า "แต๊ะเอีย" ซึ่งมีความหมายว่า "ผูกเอว" จากที่คนสมัยก่อนชอบร้อยเงินเป็นพวงผูกไว้ที่เอว โดยการให้อั่งเปานี้ คู่แต่งงานจะให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว จะออกมาจากบ้านเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ในหมู่ญาติ และด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)  


คลอโรฟิลล์

คลอโรฟิลล์ ดีจริงหรือประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ 27 ข้อ !!

                    คลอโรฟิลล์คืออะไรคลอโรฟิลล์ (Chlorophyllคือ คลอโรพลาสเม็ดเล็กๆ มีสีเขียว ซึ่งอยู่ในเซลล์พืช โดยเป็นส่วนหนึ่งของพืชที่เกิดจากกระบวนการทำอาหารของพืชหลังจากได้รับแสงอาทิตย์
                  ชื่อว่าหากร่างกายของเราได้รับคลอโรฟิลล์เข้าไปก็จะไปเป็นสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ในภาวะโลหิตจาง เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้วในร่างกายของเราจะมีการสร้างและทำลายเซลล์มากกว่า 2.5 ล้านเซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ร่างกายทำงานหนัก เม็ดเลือดแดงในร่างกายก็จะถูกทำลายมากขึ้นตามไปด้วย และร่างกายของเราก็ต้องมีการสร้างขึ้นมาทดแทนในจำนวนเท่าๆกัน ตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายของเรามีความบกพร่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง สาเหตุอาจจะมาจากการขาดสารตั้งต้นอย่างคลอโรฟิลล์ เมื่อปล่อยให้มีความบกพร่องเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติตามมา เพราะเม็ดเลือดแดงถือเป็นระบบขนส่งอาหารที่สำคัญอย่างมากในร่างกาย

ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์

        1. เชื่อช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส         
        2.เชื่อว่ามีส่วนช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เพิ่มความกระปรี่กระเปร่า
        3.ช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตา         
        4.ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
        5. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด แพ้อากาศ     
        6. ประโยชน์คลอโรฟิลล์ ช่วยเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดแดงให้สมดุล 
      7. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด    
           8.ช่วยกำจัดสารพิษภายในร่างกาย                 9.มีส่วนช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ
         10. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง          11.  มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และไมเกรน  
         12. ช่วยลดปัญหาการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตัน หรือเส้นเลือดขอด      
         13.ช่วยลดปัญหากลิ่นตัว หรือกลิ่นที่เกิดจากอวัยวะภายในร่างกาย   
         14.คลอโรฟิลล์ ประโยชน์ใช้เป็นยาดับกลิ่นปาก (เห็นผลน้อยมาก) 
         15. ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้         16. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ     
         17. มีส่วนช่วยบรรเทาและรักษาโรคท้องผูก           18.  ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
         19 ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน       
         20. ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ ช่วยทำความสะอาดบาดแผลให้สะอาดได้ดีกว่าสารชนิดอื่น
         21. มีส่วนช่วยป้องกันโรคตับอักเสบ และไตวาย          22. มีส่วนช่วยฟืนฟูการทำงานของตับ
         23. มีฤทธิ์ในการต้านการติดเชื้อต่างๆ (แต่มีประสิทธิภาพน้อยมากๆ)      24.ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
         25.ใช้รักษาแผลและช่วยการสมานบาดแผล ให้แผลรายกว่าปกติ   26.      ช่วยดับกลิ่นเหม็นของแผล
         27.   ช่วยลดอาการเป็นพิษหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิดได้

                       

ที่มา (http://www.greenerald.com/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C/)

วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

ศิลปินแห่งชาติ(ครูสาคร ยังเขียวสด)

ครูสาคร ยังเขียวสด

 
ศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดง ( ละครเล็ก ) ประจำปี พ . ศ . 2539
การละเล่นหุ่น นับเป็นมหรสพที่อยู่คู่สังคมไทยมานานหลายร้อยปีนับจากกำเนิดหุ่นหลวงหรือ หุ่นใหญ่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาหุ่นเล็กชุดงิ้ว จีน และหุ่นเล็กชุดรามเกียรติ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 การละเล่นหุ่นพัฒนาต่อมาจนกลายเป็นมหรสพของชาวบ้านประกอบด้วยหุ่นกระบอกและ  หุ่นละครเล็ก
หุ่นละครเล็ก นับเป็นมหรสพที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ลีลาการเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิต อันเกิดจากการสานศิลปะหลายแขนง ปัจจุบันมี เพียงคณะสาครนาฏศิลป์คณะเดียวที่มีความรู้ ความสามารถในการแสดงหุ่นละครเล็ก โดยมีครูสาคร ยังเขียวสดศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดง 
( ละครเล็ก ) ประจำปี พ . ศ . 2539 เป็นเสาหลักของคณะ
องค์ความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์การสร้างและแสดงหุ่นละครเล็กกำลังได้รับการสืบทอดผ่านคนรุ่นที่สองและคนรุ่นถัดไป อีกทั้งยังมี การจัดตั้งคณะโขนเด็กซึ่งเป็นเสมือนเวทีเตรียมความพร้อมและบ่มเพาะความรักความผูกพันต่อศิลปะการแสดง
                การแสดงหุ่นละครเล็กคณะสาครนาฏศิลป์ สะท้อนให้เห็นมิติของการปรับประยุกต์ และพัฒนาต่อโดยไม่ยึดติดกับขนบเดิมจนเกิน ไป คณะสาครนาฏศิลป์สามารถทำลายข้อจำกัดของการแสดง โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวทีหรือฉาก ทำให้สามารถเปิดการแสดงได้ในพื้นที่ จำกัดอีกทั้งยังมีการ    สอดแทรกสถานการณ์ปัจจุบันหรือมุกตลกร่วมสมัย โดยไม่กระทบต่อตัวบทหลักการแสดงอย่าง มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม นับเป็นเสน่ห์อีกประการหนึ่งของหุ่นละครเล็ก ที่ให้ความรู้สึกมีส่วนร่วม และเพิ่มสีสันให้การแสดงดู " สด " ยิ่งขึ้น
                เรื่องราวของครูสาคร ยังเขียวสดและคณะสาครนาฏศิลป์ คืออีกชีวิตอีกฉากหนึ่งของมหรสพดั้งเดิมของไทย สื่อแสดงให้ เห็นพลัง จิตนาการ พลังการเรียนรู้ สร้างสรรค์ ถ่ายทอดภูมิปัญญา ของสังคมไทยผ่านงานศิลปวัฒนธรรม อันเปี่ยมด้วยพลังชีวิต มีความสง่างาม เปี่ยมด้วยอารมณ์ เพื่อเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจในวิถีชีวิต จิตวิญญาณของวัฒนธรรมไทยระหว่างคนรุ่นต่อรุ่นและเพื่อเปิดอีกหนึ่งมุมมองต่ออนาคตความอยู่รอดของศิลปวัฒนธรรมไทยที่มาของ โจหลุยส์เธียเตอร์

                                                สาคร ยังเขียวสด " โจหลุยส์ " ครูผู้ให้ชีวิต

มหรสพหุ่นละครเล็กห่างหายจากวิถีชีวิตของคนไทยไปนานเกือบ ๕๐ ปี กว่าจะได้ปรากฏสู่ความ
รับรู้และความเข้าใจของสาธารณ ชนอีกเป็นครั้งแรกในปี พ . ศ . ๒๕๒๘ โดยมีนายสาคร ยังเขียวสด หรือครูโจหลุยส์ เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์และปรับประยุกต์หุ่นละครเล็ก เพื่อถ่ายทอดศาสตร์และ
ศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กแก่คนรุ่นหลัง
นายสาคร ยังเขียวสด เป็นบุตรของนายคุ่ยและนางเชื่อม ยังเขียวสด ซึ่งทั้งสองเป็นศิลปินโขนละคร
นายสาคร ยังเขียวสด เกิดปี พ . ศ . ๒๔๖๗ คุณย่าหลั่งภรรยาพ่อครูแกรตั้งชื่อให้ว่า " สาคร "
เพราะขณะนั้นหุ่นละครเล็กพ่อครูแกรกำลังแสดงเรื่องพระอภัยมณีคุณย่าปลั่ง จึงนำชื่อ 
" สุดสาคร " ตัวละครในเรื่องพระอภัยมณีมาตั้งเป็นชื่อให้ .. อันเป็นที่มาของชื่อโรงละคร 
โจหลุยส์เธียเตอร์
นายสาคร ยังเขียวสด มีชื่อเล่นเมื่อครั้งยังเด็ก ว่า " หลิว " แต่ครั้นโตขึ้นได้เข้าสู่วงการแสดง ได้เป็น
เจ้าของคณะลิเก และชอบแสดง เป็นตัวตลกประจำคณะ จึงมีผู้เรียกชื่อเล่นเพี้ยนจากหลิวเป็น หลุยส์ 
และภายหลังมีผู้เติมสมญานามว่า โจ ให้อีก จึงกลายเป็น โจหลยส์ ซึ่ง เป็นชื่อที่รู้จักกันอย่าง
กว้างขวางในวงการแสดง และปัจจุบันได้นำชื่อ โจหลุยส์ มาตั้งเป็นชื่อของโรงละครโดยใช้ชื่อว่า 
" โจหลุยส์เธีย เตอร์ "


             หุ่นละครเล็กกลับมาโลดเต้นบนเวทีการแสดงเป็นครั้งแรกหลังจากหายไปนานกว่า ๕๐ ปีในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปี พ . ศ . ๒๕๒๘ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ขอร้องให้ครูโจหลุยส์ จัดกาแสดงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ครูโจหลุยส์จึงตัดสินใจทำพิธีบูชาพ่อครูแกรเจ้าของหุ่นเพื่อขออนุญาตจัดทำหุ่นเพิ่มเติม ในงานนี้ครูโจหลุยส์ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณแสดงหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ณ สวนอัมพรและแสดงสาธิตหุ่นละครเล็กที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่ง ประเทศไทย ในปี พ . ศ . ๒๕๓๐

ในขณะนั้นครูโจหลุยส์ได้ตั้งชื่อคณะหุ่นละครเล็กของท่านว่า หุ่นละครเล็กคณะสาครนาฏศิลป์ละครเล็กหลานครูแกร " หุ่นละคร เล็กของครูโจหลุยส์เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเป็นอันมากด้วยลักษณะพิเศษของหุ่นละครเล็กที่เคลื่อนไหวได้ทุกส่วนคล้ายคนจริงและความ สวยงามของเครื่องแต่งกายแบบโขนละครจริง รวมทั้งศิลปะการเชิดที่แตกต่างจากการเชิดหุ่นกระบอกที่คุ้นเคย
       หุ่นละครเล็กของครูโจหลุยส์ ได้รับการพัฒนาให้สามารถหันหน้าได้ทุกตัว มีรูปทรงได้สัดส่วนงดงามมากขึ้น ใส่เครื่องประดับที่ งดงามมากขึ้น และมีความประณีตในการแสดงมากขึ้นเพื่อให้หุ่นมีท่วงท่าการรำ และการเจรจาเหมือนคนจริงทั้งยังคิดให้มีการเชิดหน้า โรง เพื่อให้ผู้ชมได้มีโอกาสชมลีลาการแสดงของผู้เล่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และมีการสาธิตวิธีการเชิดก่อนการแสดงด้วยนอกจากนี้ครูโจหลุยส์ ยังได้ดัดแปลงให้หุ่นละครเล็กแสดงเรื่องรามเกียรติ์โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้เพราะเป็นเรื่องสนุก ตัวละครมีความสง่างาม เดิมหุ่นละครเล็กจะแสดงเรื่องรามเกียรติ์เพียงเล็กน้อยเฉพาะตอนเปิดเรื่อง เพื่อเป็นการเบิกโรงเท่านั้น ต่อจากนั้นจะแสดงละครซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องพระอภัยมณี
                หุ่นละครเล็กคณะครูโจหลุยส์ จึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายผ่านสื่อมวลชนรวมทั้งได้รับการเชิดชูจาก
สถาบันการศึกษาต่าง ๆ อีกทั้งยังได้ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปเผยแพร่ศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กในประเทศต่าง ๆ